24.6 C
Bangkok
Sunday, 7 December,2025
spot_imgspot_img

นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย

กดแชร์

ในการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมื่อวาน 15 กรกฎาคม 2567 โดยเน้นเรื่อง นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ซึ่งอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้เข้าร่วมการประชุมตามกำหนด แม้ว่าเขาจะเพิ่งรอดตายจากการลอบยิงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 13 กรกฎาคม 2567 ขณะหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย และได้รับบาดเจ็บที่ใบหูขวาด้านบน

นโยบายเศรษฐกิจของ
โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ที่สำคัญมีอะไรบ้าง

มาตรการภาษีการค้าแบบลอยตัว และการลดภาษีนิติบุคคล เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ ระบุว่า เขาต้องการเก็บภาษีการค้าจากประเทศคู่ค้าเพิ่ม และลดอัตราภาษีนิติบุคคล พร้อมทั้งสัญญาว่าจะ “เอาชนะเงินเฟ้อ” และ “ลดราคาสินค้าอย่างรวดเร็ว”

นอกจากนั้น เขายังต้องการเพิ่มการผลิตน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ยกเลิกนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะส่งเสริมตลาดยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน

จัดการกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยจะมี “มาตรการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”

นโยบายไม่เก็บภาษีจากค่าทิป ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิของพรรคเดโมแครต ฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่มาจากพรรคเดียวกัน จะมีนโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้กับกลุ่มพนักงานที่มีรายได้ส่วนหนึ่งจากค่าทิป

โดยรวม นโยบายเศรษฐกิจ
ของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ที่นำเสนอนั้น เป็นร่างนโยบายที่สวยหรู แต่ว่าไม่ได้ลงรายละเอียด
ในวิธีการดำเนินนโยบาย

ทัศนของฝ่ายที่เห็นต่างกับนโยบายเศรษฐกิจของ
โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0

พรรคเดโมแครตและนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำหลายท่านเห็นว่า ถ้าคำนวณด้วยคณิตศาสตร์ แนวคิดของทรัมป์จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง ชนชั้นกลางจะลำบาก และการขยายมาตรการลดภาษีที่กำลังจะหมดอายุลงนั้น จะสร้างหนี้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์

โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีนโยบายหรือพิมพ์เขียวทางกฎหมายที่ชัดเจน การรณรงค์หาเสียงของเขาเป็นการเดิมพัน ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญกับมุมมองการบริหารเศรษฐกิจ มากกว่านโยบายที่เป็นรูปธรรม ในทางตรงกันข้าม โจ ไบเดน ได้นำเสนอแผนงบประมาณที่มีความยาวถึง 188 หน้า ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจของเขา

สถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปีเตอร์สัน (The Peterson Institute of International Economics) วิเคราะห์นโยบาย การเนรเทศคนงาน 1.3 ล้านคน ว่าจะทำให้ขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาหดตัวลง 2.1% และอาจนำไปสู่ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

ทัศนของฝ่ายที่เห็นด้วยกับนโยบายเศรษฐกิจของ
โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0

สตีเฟน มัวร์ (Stephen Moore) ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์ของทรัมป์ จากมูลนิธิเฮอริเทจ (Heritage Foundation) นักคิดสายอนุรักษ์นิยมกล่าวว่า ทรัมป์มีความได้เปรียบตรงที่เขาเคยเป็นประธานาธิบดี ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตัดสินใจเลือกเขาได้จากผลงานการบริหารในสมัยแรก

“ถ้าคุณอยากรู้ว่า เขาจะทำอะไรในสมัยที่ 2 ให้ไปดูผลงานที่เขาทำในสมัยแรก”

นาย มัวร์ แสดงความเห็นว่า เขาเชื่อว่าทรัมป์มุ่งมั่นและจริงจังในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

บริษัทเอกชนต่างชอบแนวคิดของทรัมป์ ที่จะลดกฎระเบียบต่างๆ และลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 21% เหลือ 20% เมื่อเทียบกับพรรคเดโมแครต ที่จะจัดเก็บภาษีนิติบุคคลที่อัตรา 28% ด้วยเหตุผลว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายสำหรับชนชั้นกลาง และลดการขาดดุล

ความย้อนแย้งในนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0

ทรัมป์ต้องการปล่อยลอยตัวภาษีศุลกากร เพื่อจะปกป้องงานภาคการผลิตของสหรัฐฯ ด้านบริษัทต่างๆ กังวลว่าภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น จะเป็นการเพิ่มต้นทุน และผู้บริโภคมักจะเป็น ผู้ที่ต้องแบกรับต้นทุนนี้

แผนภาษีของทรัมป์อาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แม้ว่าพรรครีพับลิกันของโดนัลด์ ทรัมป์ จะยืนยันนโยบายการลดอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะลดอย่างไร

อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของไบเดน และศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส แสดงความเห็นว่า“เรื่องภาษีนั้นมีความสำคัญมาก แต่ประชาชนไม่ได้ให้ความสนใจอย่างลึกซึ้งในมิติต่างๆ ของนโยบายนี้ รวมถึงผลกระทบที่จะตามมาว่าเป็นอย่างไร” .

เทคนิคการหาเสียง

ตามการวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์เมื่อต้นปีนี้ 2567 พบว่า นโยบายภาษีศุลกากรเป็นตัวตัดสินแพ้ ชนะทางการเมืองมากกว่าการมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ มาตรการภาษีศุลกากรในสมัยแรกของทรัมป์ไม่ได้เพิ่มการจ้างงาน แค่ใช้ช่วยทรัมป์ในการหาเสียงเมื่อปี 2020 ในพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องสูญเสียงานให้กับอุตสาหกรรมจากจีน และประเทศอื่นๆ

นักเศรษฐศาสตร์ผู้ทำวิจัยนี้ อยากจะให้ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า การที่ทรัมป์กำลังเสนอการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้ามากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากขึ้น 10 เท่าจากสมัยแรกของเขา อาจทำให้โรงงานมีต้นทุนที่แพงขึ้น จากการนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็น ขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาสินค้าของผู้บริโภคต้องขึ้นตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้คนต่างก็กำลังดิ้นรนกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้ว จึงอยากจะให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจถึง ความเสี่ยงในนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ก่อนที่จะสายเกินไป ก่อนที่ผู้คนจะสังเกตเห็นว่าทุกอย่างมีราคาแพงมาก เมื่อถึงตอนนั้นจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่”

สรุป นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ที่สำคัญ

  • มาตรการภาษีการค้าแบบลอยตัว และการลดภาษีนิติบุคคล
  • ลดเงินเฟ้อ และ ลดราคาสินค้าอย่างรวดเร็ว
  • เพิ่มการผลิตน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ยกเลิกการส่งเสริมตลาดยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
  • ไม่เก็บภาษีจากค่าทิป
  • ขยายมาตรการลดภาษีที่กำลังจะหมดอายุลง
  • จัดการกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยจะมี “มาตรการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”

ที่มา : สำนักข่าว เอพี


กดแชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -spot_img
Latest Articles